เขาเป็นนักเตะที่เก่ง จากหัวใจป๋า
เรื่องราวที่แท้จริงจากปากฮวน เซบาสเตียน เวรอน เป็นหนึ่งในนักเตะที่ออกมาพูดอย่างแมนๆ
ด้วยตัวเองถึงปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างค้าแข้งกับแมนยูไนเต็ด ไม่ต้องมโนไปฟังจากใครเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันไม่ปลื้มมากนักเมื่อเกิดกระแสโจมตี หลังจาก10เดือนผ่านไปที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดทำลายสถิติซื้อตัวของพรีเมียร์ลีกโดยเวรอนที่ตัวเลข28.1ล้านปอนด์ และถูกตั้งข้อสังเกตว่ามันเป็นการซื้อตัวที่ล้มเหลว ป๋าตอบกับคำถามเหล่านี้ด้วยประโยคเด็ดที่ทำให้เห็นชัดเจนที่สุดว่า ป๋ารู้สึกยังไงต่อเคสของเวรอนว่า
“เขาเป็นนักเตะที่โคตรพ่อโคตรแม่เก่งโว้ย!” กุนซือชาวสก็อตต์ของเราพูดคำนี้ตอบโต้ออกมา ก่อนที่จะระเบิดวงสนทนาในการให้สัมภาษณ์ใน press conference อีกดอกหนึ่งว่า ถึงแม้จะหนีความเป็นจริงไม่ได้ว่า เมื่อเทียบกับความสำเร็จของเขาก่อนที่จะย้ายมา ทั้งในอิตาลีและทีมชาติอาร์เจนติน่านั้น ฮวน เซบาสเตียน เวรอน ค่อนข้างลำบากจริงๆในการทำผลงานให้ได้ตามความคาดหวังที่เข้ามาในโอลด์แทรฟฟอร์ด นั่นสิ แล้วทำไมมันไม่เวิร์ค? “ผมไม่มีอะไรจะแก้ตัวครับ” เวรอนกล่าวกับสื่อถึงสาเหตุที่เขาเผชิญความยากลำบากกับฟุตบอลอังกฤษ “มันเป็นสิ่งใหม่สำหรับผมจริงๆ ถึงแม้ปกติผมจะเป็นคนที่รับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆได้ง่ายก็ตาม ด้านครอบครัวของผมมานี่ก็มีความสุข ตัวผมเองก็มีความสุขอยู่นะ” “แต่สิ่งที่มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงเลยคือเรื่องทางด้านกายภาพ ผมถือว่าการเทรนนิ่งด้านฟิตเนสเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ผมย้ายมาจากประเทศที่ฝึกซ้อมเตรียมทีมกันอย่างหนักช่วงปรีซีซั่น ย้ายมาสู่ที่ที่ ใช้แต่แมตช์การแข่งขันจริงเท่านั้นในการฝึกซ้อมตัวเองระหว่างแข่งเลย
ซึ่งที่ประเทศอังกฤษพวกเขาต้องลงเตะกันตลอดทั้งปีไม่มีพัก ไม่ว่าจะคริสต์มาส ปีใหม่
เตะแบบนอนสต็อปเลยล่ะ” “หกเดือนแรกของผมมันดีมากเลยนะ ผมจัดการกับมันได้อยู่หมัด แต่นั่นแหละพอหลังจากเดือนธันวาคม มันเริ่มลำบากสำหรับผมแล้วที่จะรักษาฟอร์มไว้ ผมเริ่มที่จะมีความฟิตพื้นฐานไม่พอแล้ว ซึ่งทำให้อาจจะไม่สามารถยืนได้เต็มเกม และผมก็เสี่ยงจะบาดเจ็บด้วย” แต่ถึงกระนั้นเองก็มีไฮไลต์สำคัญของเวรอนที่เกิดขึ้นกับเราอยู่
นั่นก็คือการที่เวรอนพังประตูที่4ให้กับทีมได้ ในแมตช์โคตรคัมแบ็คระดับตำนาน 5-3 เกมเจอกับสเปอร์ในเดือนกันยายนปี2001 และยังมีส่วนสำคัญกับทีมมากในช่วงแบ่งกลุ่มรอบแรกๆในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกของปีศาจแดงฤดูกาล 2002/03 ก่อนที่เขาจะเจอปัญหาอาการบาดเจ็บซ้ำอีกครั้ง นอกจากนี้ก็เป็นเวรอนนี่ล่ะที่เคยยิงประตูระดับที่ทำให้เฟอร์กี้พูดถึงว่า นั่นเป็นประตูที่เจ๋งที่สุดตั้งแต่เขาเคยเห็นมาในชีวิต ประตูนั้นคือการกระโดดวอลเล่ย์กลางอากาศด้วยท่าRabona (ไขว้ยิง ท่าไม้ตายเดอะตุ๊กนั่นแหละ) บอลพุ่งลอยตรงไปเสียบมุมบนเลยทีเดียว ซึ่งเสียดายว่ามันเป็นประตูที่เกิดขึ้นตอนที่นักเตะแมนยูซ้อมกันระหว่างทัวร์ที่สหรัฐอเมริกาเท่านั้น หลายๆสิ่งหลายๆอย่างอาจจะไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจไว้
แต่หากใครที่คิดว่าเวรอนจะเป็นพวกนักเตะอเมริกาใต้พวกใจฝ่อหนีปัญหาที่แมนเชสเตอร์นั้น บอกเลยว่าคิดผิด แม้เขาจะไม่ประสบความสำเร็จกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แต่มิดฟิลด์ผู้นี้ก็ยังคงต้องการพิสูจน์ตัวเองด้วยการขอไปลงใต้จากแมนเชสเตอร์ ไปลงหลักปักฐานใหม่ที่ทีมจากเมืองหลวงลอนดอนอย่าง เชลซี ในตลาดซัมเมอร์ปี2003 แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่สามารถเรียกฟอร์มได้
ติดตามบทความข่าวสารอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ datacraft-inc.com