UFA Slot

ย้อนรอย 5 เกม”แดงเดือด”หลังสุดในศึก เอฟเอ คัพ

หลังจากเกมพรีเมียร์ลีก ระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ที่แอนฟิลด์ เจ๊ากันไป 0-0 เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน คืนนี้ทั้งคู่จะต้องกลับมาวัดคมกันอีกครั้ง ในศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสี่ โดยเกม “แดงเดือด” ในถ้วยอันเก่าแก่ใบนี้ เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ซึ่งหลายครั้งก็มักจะมีเหตุที่พากระตุกจิตจนลืมไม่ลง ถ้าจะหาครั้งล่าสุดที่เผชิญหน้าท้าอเวจีกัน สำหรับแดงเดือดในเวอร์ชั่นเอฟเอ คัพ ต้องย้อนกลับไปถึง 9 ปีเลยทีเดียว

และมีแค่นัดเดียวเท่านั้น ที่บู๊กันแบบไร้สกอร์ 0-0 ซึ่งก็คือครั้งแรกตั้งแต่สมัยที่แมนฯ ยูไนเต็ด ยังใช้ชื่อเดิม (นิวตัน ฮีธ)โดยเราไม่จำเป็นต้องรื้อฟื้นกันยาวไกลขนาดนั้น วันนี้คัดมาให้ชมเน้นๆ 5 นัดหลังสุดที่ฟาดฟันกันในถ้วยอันศักดิ์สิทธิ์ใบนี้จะมีเกิดอะไรขึ้นบ้าง ตามมาได้เลยแมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 ลิเวอร์พูล (1995/96) ฟุตบอลเอฟเอคัพรอบชิงชนะเลิศแมนฯ ยูไนเต็ดในฤดูกาลนั้นยังไม่สามารถเอาชนะลิเวอร์พูลของรอยอีแวนส์ได้เลยด้วยผลงานแพ้1 เสมอ 1 โดยร็อบบี้าวเลอร์กองหน้าขวัญใจ”เดอะ ค็อป”โชว์ซัดไปคนเดียว4 ประตูจากสองเกมลีกที่บู๊กันแดงเดือดเวอร์ชั่นชิงถ้วยเอฟเอคัพเริ่มเปิดฉากอย่างร้อนระอุโดยมีจังหวะกระทบกระทั่งกันเล็กน้อยระหว่างร็อบบี้ฟาวเลอร์กับรอยคีนเกมทำอะไรกันไม่ได้จนมาถึงช่วงครึ่งหลั แมนฯยูไนเต็ดเกือบได้ประตูจากเอริกคันโตน่าแต่ก็ยังไม่ผ่านมือของเดวิดเจมส์ที่ตะครุบไว้ทันจากนั้นทั้งสองทีมก็เพิ่มความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เปิดเกมแลกกันอยู่หลายกระบวนท่าพอสมควร จนมาถึงช่วงท้ายเกมลูกเตะมุมของแมนฯยูไนเต็ด

UFA Slot

นาทีที่ 85 โด่งเข้ามาหน้าปากประตู เดวิด เจมส์ รีบกระโดดชกบอลออกมา

แต่มันดันไปเข้าทางปืนของ คันโตน่า เมื่อโอกาสประเคนถึงเท้า “ก็องโต้” ไม่รอช้า จัดการตะบันแบบไม่ต้องจับ บอลผ่านแนวรับ ลิเวอร์พูล 4-5 คน ลงไปนอนซุกก้นตาข่าย ก่อนจบเกมด้วยการคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ สมัยที่ 9 ของสโมสร ด้วยการปราบอริตลอดกาลอย่าง ลิเวอร์พูล 1-0 แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 ลิเวอร์พูล (1998/99) ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 4 ศึกแดงเดือด เอฟเอ คัพ รอบ 4 ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จะแข่งกันในวันที่ 24 มกราคมนี้

ซึ่งทุกอย่างเคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อปี 1999 รอบเดียวกันสนามเดียวกันโดยเกมดังกล่าวเปิดม่านอย่างรวดเร็ว ด้วยลูกโหม่งของ ไมเคิ่ล โอเว่น พาทีมเยือนออกนำก่อน 1-0 และต่อจากนั้นทั้งคู่ก็มีโอกาสลุ้นประตูกันอยู่หลายคราแลกหมัดใส่กันไม่ยั้งแต่แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไม่สามารถทลายกำแพงของลิเวอร์พูลจนมาถึงช่วง10นาทีสุดท้ายเฟอร์กี้”ไม่นิ่งดูดายควักไพ่ใบสุดท้ายส่งซูเปอร์ซับหมายเลข 1 อย่างโอเล่กุนนาร์โซลชาลงสนามหลังจากนั้นไม่นานแมนฯยูไนเต็ดได้ประตูตีเสมอจากดไวท์ยอร์คในนาทีที่ 88 และเกมกำลังจะต้องยืดเยื้อไปจนถึงช่วงต่อเวลาพิเศแต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บจังหวะที่ พอล สโคลส์ จับบอลในเขตโทษ

และบอลทะลักมาที่ โซลชา พอดิบพอดี “เพชฌฆาตหน้าทารก”ก็ไม่ทิ้งโอกาสทองให้หลุดลอย ซัดบอลเข้าไปคมกริบ พา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปิดเกมพลิกนรกกลับมาชนะ”หงส์แดง” 2-1 ซึ่งฤดูกาลนั้น”ปีศาจแดง”ก็ทะลุเข้าไปคว้าแชมป์เอฟ เอ คัพ เป็นถ้วยแรกของซีซั่นได้สำเร็จ ก่อนจะเถลิงบัลลังก์แชมป์พรีเมียร์ลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สร้างตำนานทริปเปิ้ลแชมป์

ติดตามบทความข่าวสารอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ datacraft-inc.com

Releated