SME ต้องการตัวช่วยด้านเทคโนโลยีหรือไม่?
ช่วงนี้ผมมีโอกาสไปพูดและเสวนาเรื่อง SME กับการปรับตัวทางธุรกิจโดยใช้เทคโนโลยีในหลายเวทีมาก มีทั้ง Google for SME
และถ้ามีใครได้ติดตาม Bangkok Fintech Fair 2020 ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดงาน ผ่านทาง Facebook ก็จะเป็นเรื่อง SME เต็ม ๆ ซึ่งผมและเพื่อน ๆ ในวงการการเงินและ startup ก็ได้มีโอกาสไปแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน และอยากจะมาแชร์ให้ผู้อ่านในบทความนี้ครับ
อย่างแรกที่ผมต้องขอบอกเลยนะครับ ถ้าผู้อ่านเป็น SME หรือกำลังสนใจจะเป็นเจ้าของธุรกิจให้ช่วยคิดคล้อยตามกัน เพื่อดูว่าท่านสามารถนำเอาไปใช้ได้หรือไม่
มี 3 ประเด็นหลัก ๆ ที่อยากแชร์ดังนี้
- Data ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ใคร ๆ ก็พูดว่าถ้าบริษัทไหนมีข้อมูล เหมือนมีบ่อน้ำมัน ที่คุณจะเอาไปขายและร่ำรวยมหาศาลได้ แต่ในความเป็นจริงก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่องค์กรจะเก็บและจัดการข้อมูล ผมเชื่อว่า SME หลาย ๆ ที่มักจะมีข้อมูลลูกค้าเยอะน้อยต่างกันไป แต่สิ่งที่อยากจะให้เริ่มทำกันเลยก็คือ การเก็บข้อมูลลูกค้าที่ดี โดยเริ่มว่าเก็บอย่างไร เช่น ลูกค้ามาที่หน้าร้านแล้ว
เราต้องขอข้อมูลลูกค้าไว้หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นทางการกรอกข้อมูล หรือใช้ LINE Official Account ให้เป็นประโยชน์ที่สุด และเมื่อเราได้ข้อมูลมาแล้ว เราก็สามารถที่จะต่อยอดจากตรงนั้นได้ หรือถ้าหากท่านมีข้อมูลเหล่านี้อยู่แล้ว แต่เก็บไว้ไม่เป็นระเบียบ ก็ถึงเวลาที่เราจะเอาข้อมูลมารวมไว้ที่เดียวกัน ซึ่งถ้าเยอะมาก ก็คงต้องพึ่งระบบจัดการข้อมูล (Data Management Platform) ซึ่งก็มีหลายเจ้าในเมืองไทยที่ทำ เช่น ChocoCRM startup ที่กรุงศรีลงทุนไปก็มีเช่นกัน - Loyalty เมื่อเราเก็บข้อมูลลูกค้ากันอยู่แล้ว ก็ถึงเวลาที่เราควรจะเอามาใช้ให้เป็นประโยชน์ โดยการสื่อสารไปหาลูกค้าโดยตรง และมีการสะสมยอดการซื้อ หรือคะแนน เพื่อให้ลูกค้าอยากกลับมาซื้อสินค้าของท่านอีกครั้ง (เชื่อผมเถอะครับ ลูกค้าคนไทย ชอบโปรโมชั่นลด แลก แจก แถม เป็นที่สุด) วิธีการนี้จะทำให้ลูกค้ากลับเข้ามาใช้ถี่ขึ้น และเริ่มมีการพูดต่อไปยังคนรอบข้าง
ทำให้เราประหยัดค่าโฆษณาไปได้เยอะ ซึ่งถ้าเราเคยได้ยินสูตร 20:80 หมายถึงว่าถ้าเรารักษาลูกค้า 20% โดยการให้คะแนนสะสม และทำการตลาดโดยตรง ลูกค้ากลุ่มนี่ก็จะสร้างรายได้ให้เราถึง 80% - Automation แม้ธุรกิจของคุณอาจจะเป็น SME เล็ก ๆ แต่ผมก็สนับสนุนให้กิจการเริ่มสรรหาเครื่องมือในการบริหารงานแบบอัตโนมัติมากขึ้น เช่น ระบบบัญชี ก็สามารถใช้แบบ Accounting on Cloud ที่สามารถบันทึกบัญชีได้ง่าย ๆ ทำที่ไหนก็ได้ (Flow Accounting หรือ Peak Engine เป็นแพลทฟอร์มที่แนะนำอย่างยิ่ง) หรือหากอยากทำเว็บไซต์ด้วยตัวเองง่าย ๆ
ไม่ต้องไปจ้างให้แพง ก็สามาารถใช้ program ที่ชื่อ WIX ทำเสร็จภายใน 1-2 วัน หรือถ้าเป็นองค์กรที่เริ่มมางานซ้ำ ๆ บ่อย ๆ ก็ต้องเริ่มมองหา RPA (Robotic Process Automation) ที่เหมือนให้หุ่นยนตร์ฝังในระบบคอมพิวเตอร์ แล้วทำงานที่ซ้ำ ๆ แทนคนได้ (แนะนำ startup ที่ชื่อ Lightwork เป็น RPA คนไทยที่เข้าใจการทำงานอย่างแท้จริง)
นี่คือตัวอย่างของการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีสำหรับ SME ผมอยากให้ทุกคนเริ่มมองหาและลองใช้ ใครเริ่มก่อน ก็จะได้เปรียบก่อนนะครับ คราวหน้าถ้าผมมีเครื่องมืออะไรใหม่ๆ
ติดตามเนื้อหาดีๆ น่าอ่านได้ที่ datacraft-inc.com อัพเดตทุกสัปดาห์